นายยอดชาย เมฆสุวรรณ หรือชื่อจริงคือ นายวิเชียร เมฆสุวรรณ และ นางสมถวิล เมฆสุวรรณ (ภรรยา) ได้ขึ้นรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาหลังตัดสินยกฟ้องจำเลย กรณีนักแสดงรุ่นใหญ่ "ยอดชาย เมฆสุวรรณ" เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหาอีกฝ่ายล้อมรั้วปิดกั้นทาง ชี้ชัดอดีตพระเอกคนดังบุกรุกรื้อรั้วกั้น ถมดินทำถนนบนที่ดินจำเลยผ่านเข้าที่ดินตัวเอง ด้านคู่กรณีเผยโล่งใจสุดๆ พร้อมยืนยันฟ้องกลับแน่
จากรณีที่มีข่าวอดีตพระเอกดัง "วิเชียร เมฆสุวรรณ" หรือที่รู้จักกันในชื่อของ "ยอดชาย เมฆสุวรรณ" เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตนเองถูกเจ้าของที่ดินผืนติดกันย่านบางกรวยฟ้อง ร้องในข้อาหาบุกรุกแต่ต่อมาศาลมีคำสั่งยกฟ้องทำให้อดีตดาราดังพร้อมภรรยา ยื่นฟ้องกลับศาลแพ่งเอาผิดอีกฝ่ายในกรณีที่มีการล้อมรั้วปิดทางเข้า-ออก ที่ดินของตนเองนั้น
เกี่ยวกับที่เกิดขึ้นในส่วนของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เองได้ตัดสินให้อดีต นักแสดงรุ่นใหญ่เป็นฝ่ายชนะคดีมาแล้วในก่อนหน้านี้ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2558 ศาลฎีกาก็ได้มีคำพิพากษาคดีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยด้วยการพิจารณาพิพากษา ยกฟ้องจำเลยคู่กรณี
โดยรายละเอียดคร่าวๆ ของคดีนี้ตามคำฟ้องที่อดีตนักแสดงชื่อดังเป็นฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องระบุว่าที่ ผ่านมาตนและภรรยาได้ซื้อที่ดินย่านบางกรวยมาผืนหนึ่ง ซึ่งที่ดินดังกล่าวแม้จะไม่ติดกับถนนสาธารณะหรือถนนใหญ่แต่ที่ผ่านมาเจ้าของ ที่ดินคนเดิมและชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ใช้ที่ดินของจำเลยเนื้อที่กว้าง 5 เมตรยาว 25 เมตรเป็นทางเข้าออกสู่ถนนใหญ่อย่างเปิดเผยโดยตลอด
รวมถึงหลังจากที่ตนเองไปซื้อที่ดินดังกล่าวมาแล้วก็ยังคงใช้ทางดังกล่าวเป็น ทางรถยนต์แล่นผ่านต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ปีโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน
กระทั่งในเดือนสิงหาคมปีพ.ศ.2551 ปรากฏว่าทางจำเลยเองได้มีการนำเอาอิฐบล็อคมาก่อปิดกั้นเพื่อไม่ให้ตนใช้ทาง ดังกล่าว ทำให้ตนและภรรยารวมถึงบริวารได้รับความเสียหาย จึงตัดสินใจฟ้องร้องให้จำเลยรื้อถอนรั้วที่ว่าออก รวมถึงให้จำเลยไปจดทะเบียนเพื่อให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นทางภาระจำยอม แก่ตนเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากการพิจารณาหลักฐานและประจักษ์พยานต่างๆ ของศาลพบว่าที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นของจำเลยนั้นทั้งหมดมีสภาพเป็น สวนท้องร่อง และมีทางเดินเท้าตามสันคันท้องร่อง(ลำกระโดง)กว้างประมาณ 30 ซม. ซึ่งแม้จะเป็นที่ที่ชาวบ้านใช้เดินเพื่อไปสู่ถนนสาธารณะ แต่ทางที่ว่าก็หาได้มีสภาพเป็นถนนผ่านกลางที่ดินของจำเลยตามที่โจทก์ระบุไว้ ว่ามีการใช้สัญจรมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าอดีตนักแสดงชื่อดังเองที่เป็นฝ่ายเข้าไปรื้อทำลายรั้ว ลวดหนามที่จำเลยใช้ล้อมรอบพื้นที่ของตนเองออกก่อนถมทำถนนลูกรังแล่นผ่านกลาง ที่ดินของจำเลยเพื่อไปดำเนินการทำถนนภายในที่ดินของตนเอง ซึ่งทันทีที่รู้เรื่องทางคู่กรณีก็ไปยื่นฟ้องทันทีในคดีบุกรุกพร้อมกับก่อ อิฐบล็อคขึ้นมาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้กระทำตามโดยมิชอบด้วยกฏหมาย ด้วยเหตุนี้การที่อดีตนักแสดงชื่อดังมากล่าวอ้างเพื่อให้จำเลยรื้อถอนรั้ว อิฐดังกล่าวทิ้งพร้อมให้จำเลยจดทะเบียนภาระจำยอมยกที่ดินพิพาทให้กับโจทก์ จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ภายหลังหลังจากที่ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินดังกล่าวออกมาผู้สื่อข่าวได้ รับการเปิดเผยจากคนในครอบครัวคู่กรณีของอดีตนักแสดงคนดังว่ารู้สึกโล่งใจมาก ที่ความจริงต่างๆ ได้รับการเปิดเผยออกมาเสียที เพราะตลอดเวลานับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ทุกคนในครอบครัวต่างพากันเป็นกังวลมาก เนื่องจากคู่กรณีนั้นเป็นคนมีชื่อเสียง แถมภายนอกยังมีภาพลักษณ์เป็นดาราใจบุญ มีคุณธรรม พูดอะไรไปก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งคำตัดสินที่ออกมาก็จะได้รู้กันเสียทีว่าความจริงเป็นเช่นไร ใครผิดใครถูก ใครบุกรุกใคร ก่อนยืนยันว่าหลังจากนี้จะฟ้องกลับอีกฝ่ายแน่นอน
click ที่ภาพ เพื่อดูคำพิพากษาฉบับเต็ม
